วิธีการประหยัดเงิน แบบที่ 2
1. ถ้าจะทำอะไรกินควรจะรู้จักคำว่าทำอะไรก่อนหลัง เพื่อประหยัดไฟ
2. เวลาซื้อไก่ ควรจะซื้อทั้งตัว จะถูกกว่าไก่แบบตัดเป็นชิ้นๆ แต่ถ้าหากมีเงินพอแค่ซื้อเป็นชิ้นๆ ก็ซื้อไปเถิด อย่าซื้ออะไรเกินตัว
3. ก่อนจะออกไปซื้อของ ควรกินอะไรรองท้องให้อิ่มเสียก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อกินนอกบ้าน ขอให้พกเงินติดตัวน้อย จะได้ไม่ต้องจ่าย
4. ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวใช้ ควรสูบลมยางให้มากว่าเลขต่ำสุดที่บอกไว้สัก 2-4 ปอนด์ จะทำให้ยางสึกหรอน้อยลง พวงมาลัยคล่องขึ้น กินน้ำมันน้อยลง เวลาขับอย่าเร่งเครื่องเร็วเกินไป ความเร็วปานกลาง จะกินน้ำมันน้อย อย่าแก่เหยียบห้ามล้อบ่ายๆ หรือแสดงอภินิหารเลี้ยวรถแบบยกล้อ บางจะสึกและเสีย หรืออาจจะทำให้รถตามหลังอารมณ์เสียจนเราต้องเจ็บตัวหรือเสียอะไรก่อนถึงที่หมาย ทางที่ดีควรขึ้นรถประจำทางหรือรถไฟฟ้าดีกว่า
5. ประหยัดไฟฟ้าด้วยการปิดไฟเวลาไม่ใช้งาน หรือถ้าเป็นห้องแอร์ ควรต้องหิดหน้าต่างให้มิดชิด ห้องจะได้เย็นอยู่เรื่อยๆ ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องสตาร์ดบ่อยๆ จะทำให้ประหยัดไฟฟ้าได้มาก
6. ซื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู ปลา กุ้ง ผัก ผลไม้ ควรซื้อจากแม่ค้าโดยตรง ไม่ควรผ่านคนกลาง ราคาจะถูกลง
ถ้าจะให้ดีจงไปตลาดกำลังจะวาย จะได้ของถูกว่าตอนเช้า
7. ถ้าลูกๆ ขอเงินไปดูหนัง ให้บอกว่า ไปสวนสาธารณะดีกว่าลูก จะได้ไม่ต้องเสียเงิน
8. เงินเดือนออกทุกครั้ง ถ้าทำได้พยายามเก็บเงินจำนวนหนึ่งเอาไปฝากออมทรัพย์ หากต้องการใช้ระยะ ใกล้ๆ อย่างน้อยจะได้ดอกเบี้ยบ้างเพราะเขาให้เป็นรายวัน ถ้าคิดว่าไม่ใช้ ถ้ามีเงินเหลือใช้น่าเอาไปฝากธนาคารแบบฝากประจำ
ดอกเบี้ยจะมากกว่า โดยออมทรัพย์ร้อยละ 2.5 ฝากประจำอาจจะร้อยละ 5 ถ้าจะให้ดีซื้อพันธบัตรรัฐบาล ปัญหาก็ตรงที่ว่า เราพอจะมีเงินฝากเชียวหรือ ส่วนมากหน้ามืด กันเกือบทุกเดือนเป็นประจำอยู่แล้ว
9. ถ้าเงินไม่พอใช้ จำเป็นต้องกู้ ควรจะกู้แบบระยะสั้น ในอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ขูดจนเดือดซิบๆ
ไม่ควรกู้แบบส่งผ่อนระยะยาว ดอกเบี้ยมันจะงอกยาวตามไปด้วย
10. ถ้ามีประกันชีวิตหรือประกันภัย ควรส่งเป็นรายปีดีกว่ารายเดือนเพราะประหยัดเงินไปได้เกือบ 7-
8 เปอร์เซ็นต์
11. เวลาเขียนจดหมาย ควรใช้แบบไปรษณียบัตรจะถูกกว่าเขียนแบบใส่ซองจะเสียตรงชาวบ้านได้อ่านกัน
เพลิน เพราะนิสัยคนไทยค่อนข้างจะสอดรู้สอนเห็นเรื่องชาวบ้านอยู่เรื่อยๆ
12. ถ้าใครในบ้านเกิดเจ็บป่ายต้องกันยา อย่าไปซื้อยาตามร้านกินเองเพื่อหวังว่าจะได้ไม้ต้องเสียค่าตรวจ แต่จะตายเพราะไม่ได้ตรวจ ฉะนั้น อย่าได้เสียดายเงินเรื่องให้หมอตรวจ อย่าซื้อยากินเองโดยพลการจากหมอตี๋ตามร้าน
13.จะซื้อยาอะไร ขอให้นึกก่อนซื้อ ว่าอะไรจำเป็นหรือไม่จำเป็น คือนึกอยากซื้อของทุกวันที่ขวางหน้าไม่ว่าจะจำเป็น
วิธีการประหยัดเงิน แบบที่ 2
1. ถ้าจะทำอะไรกินควรจะรู้จักคำว่าทำอะไรก่อนหลัง เพื่อประหยัดไฟ
2. เวลาซื้อไก่ ควรจะซื้อทั้งตัว จะถูกกว่าไก่แบบตัดเป็นชิ้นๆ แต่ถ้าหากมีเงินพอแค่ซื้อเป็นชิ้นๆ ก็ซื้อไปเถิด อย่าซื้ออะไรเกินตัว
3. ก่อนจะออกไปซื้อของ ควรกินอะไรรองท้องให้อิ่มเสียก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อกินนอกบ้าน ขอให้พกเงินติดตัวน้อย จะได้ไม่ต้องจ่าย
4. ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวใช้ ควรสูบลมยางให้มากว่าเลขต่ำสุดที่บอกไว้สัก 2-4 ปอนด์ จะทำให้ยางสึกหรอน้อยลง พวงมาลัยคล่องขึ้น กินน้ำมันน้อยลง เวลาขับอย่าเร่งเครื่องเร็วเกินไป ความเร็วปานกลาง จะกินน้ำมันน้อย อย่าแก่เหยียบห้ามล้อบ่ายๆ หรือแสดงอภินิหารเลี้ยวรถแบบยกล้อ บางจะสึกและเสีย หรืออาจจะทำให้รถตามหลังอารมณ์เสียจนเราต้องเจ็บตัวหรือเสียอะไรก่อนถึงที่หมาย ทางที่ดีควรขึ้นรถประจำทางหรือรถไฟฟ้าดีกว่า
5. ประหยัดไฟฟ้าด้วยการปิดไฟเวลาไม่ใช้งาน หรือถ้าเป็นห้องแอร์ ควรต้องหิดหน้าต่างให้มิดชิด ห้องจะได้เย็นอยู่เรื่อยๆ ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ต้องสตาร์ดบ่อยๆ จะทำให้ประหยัดไฟฟ้าได้มาก
6. ซื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู ปลา กุ้ง ผัก ผลไม้ ควรซื้อจากแม่ค้าโดยตรง ไม่ควรผ่านคนกลาง ราคาจะถูกลง
ถ้าจะให้ดีจงไปตลาดกำลังจะวาย จะได้ของถูกว่าตอนเช้า
7. ถ้าลูกๆ ขอเงินไปดูหนัง ให้บอกว่า ไปสวนสาธารณะดีกว่าลูก จะได้ไม่ต้องเสียเงิน
8. เงินเดือนออกทุกครั้ง ถ้าทำได้พยายามเก็บเงินจำนวนหนึ่งเอาไปฝากออมทรัพย์ หากต้องการใช้ระยะ ใกล้ๆ อย่างน้อยจะได้ดอกเบี้ยบ้างเพราะเขาให้เป็นรายวัน ถ้าคิดว่าไม่ใช้ ถ้ามีเงินเหลือใช้น่าเอาไปฝากธนาคารแบบฝากประจำ
ดอกเบี้ยจะมากกว่า โดยออมทรัพย์ร้อยละ 2.5 ฝากประจำอาจจะร้อยละ 5 ถ้าจะให้ดีซื้อพันธบัตรรัฐบาล ปัญหาก็ตรงที่ว่า เราพอจะมีเงินฝากเชียวหรือ ส่วนมากหน้ามืด กันเกือบทุกเดือนเป็นประจำอยู่แล้ว
9. ถ้าเงินไม่พอใช้ จำเป็นต้องกู้ ควรจะกู้แบบระยะสั้น ในอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ขูดจนเดือดซิบๆ
ไม่ควรกู้แบบส่งผ่อนระยะยาว ดอกเบี้ยมันจะงอกยาวตามไปด้วย
10. ถ้ามีประกันชีวิตหรือประกันภัย ควรส่งเป็นรายปีดีกว่ารายเดือนเพราะประหยัดเงินไปได้เกือบ 7-
8 เปอร์เซ็นต์
11. เวลาเขียนจดหมาย ควรใช้แบบไปรษณียบัตรจะถูกกว่าเขียนแบบใส่ซองจะเสียตรงชาวบ้านได้อ่านกัน
เพลิน เพราะนิสัยคนไทยค่อนข้างจะสอดรู้สอนเห็นเรื่องชาวบ้านอยู่เรื่อยๆ
12. ถ้าใครในบ้านเกิดเจ็บป่ายต้องกันยา อย่าไปซื้อยาตามร้านกินเองเพื่อหวังว่าจะได้ไม้ต้องเสียค่าตรวจ แต่จะตายเพราะไม่ได้ตรวจ ฉะนั้น อย่าได้เสียดายเงินเรื่องให้หมอตรวจ อย่าซื้อยากินเองโดยพลการจากหมอตี๋ตามร้าน
13.จะซื้อยาอะไร ขอให้นึกก่อนซื้อ ว่าอะไรจำเป็นหรือไม่จำเป็น คือนึกอยากซื้อของทุกวันที่ขวางหน้าไม่ว่าจะจำเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น